กรณีศึกษา

ลูกค้าของเราคือโรงงานน้ำแข็งในจังหวัดตาก ซึ่งดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง ค่าไฟฟ้าของพวกเขาอยู่ที่ 350,000 บาทต่อเดือน โดยมีโหลดไฟฟ้าช่วงกลางวันอยู่ที่ 200-220 กิโลวัตต์ เป้าหมายของพวกเขาคือลดค่าไฟให้ได้มากที่สุด

นี่คือภาพมุมสูงของหลังคาโรงงานก่อนการติดตั้ง:

หลังจากสำรวจอาคารและตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าร่วมกัน เราตัดสินใจติดตั้งระบบขนาดประมาณ 200 กิโลวัตต์พีก (kWp) โดยเราเลือกใช้แผงโซลาร์เซลล์ชนิดไบเฟเชียล 342 แผง ขนาด 600 วัตต์ต่อแผง รวมเป็น 205 กิโลวัตต์พีก พร้อมอินเวอร์เตอร์ Huawei ขนาด 190 กิโลวัตต์

การติดตั้งทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ นี่คือทีมวิศวกรของเราที่กำลังทำงานบนหลังคา:

เราถ่ายภาพจากโดรนไม่กี่วันก่อนการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ ดังนั้นภายหลังจึงมีการติดตั้งแผงโซลาร์เพิ่มเติมที่มุมบนซ้ายของหลังคา นี่คือภาพของการติดตั้งที่เกือบเสร็จสมบูรณ์:

นี่คือภาพหน้าจอจากซอฟต์แวร์มอนิเตอร์ระบบโซลาร์ของวันที่ 9 เมษายน กราฟสีเขียวแสดงการผลิตไฟฟ้าระหว่างวัน เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่และสูงสุดในช่วงเที่ยงวัน

คุณสามารถเห็นว่าระบบผลิตไฟฟ้าได้ 990 หน่วย (kWh) ในวันนั้น ซึ่งเมื่อคิดเป็นค่าไฟที่ประมาณ 4 บาทต่อหน่วย ระบบโซลาร์ช่วยลดค่าไฟได้ประมาณ 4,000 บาทในวันเดียว

โดยสรุป ลูกค้าประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 110,000 บาทต่อเดือน และมีระยะเวลาคืนทุนไม่ถึง 4 ปี พวกเขาจะสามารถใช้งานระบบได้นานถึง 30 ปี เนื่องจากเราใช้แผงโซลาร์เซลล์ไบเฟเชียลที่ทนทาน และโครงสร้างติดตั้งคุณภาพสูง

เจ้าของโรงงานพอใจกับการประหยัดค่าไฟเป็นอย่างมาก และได้ว่าจ้างเราให้ติดตั้งระบบที่โรงงานอีกแห่งของเธอในช่วงฤดูร้อนปีนี้